Last updated: 30 ต.ค. 2566 | 162 จำนวนผู้เข้าชม |
ในบางครั้งการจะเลือกซื้อสร้อยคอทองแท้ หรือทองรูปพรรณแต่ละครั้ง อาจเป็นเรื่องน่าสงสัยสำหรับผู้ซื้อไม่น้อย เนื่องด้วยราคาที่ดูจะผันผวนไม่เท่ากัน แม้จะเห็นว่าชิ้นทองมีน้ำหนักเท่ากันแต่ทำไมราคาถึงแตกต่างกันได้? วันนี้เราจึงจะพาไปรู้จักกับปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อราคาทองรูปพรรณอย่าง 'ค่ากำเหน็จ' พร้อมคำแนะนำว่าควรเลือกซื้อสร้อยทองลายไหนดีที่มีค่ากำเหน็จถูก
ค่ากำเหน็จ คือค่าใช้จ่ายในการผลิตทองคำรูปพรรณให้เป็นลวดลายต่าง ๆ ถือเป็นค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าแรง หรือค่าจ้างในการผลิต ซึ่งราคาจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความยากง่ายของการขึ้นรูปจากทองคำแท่งมาสู่ทองรูปพรรณ
ตามปกติแล้วค่ากำเหน็จเป็นราคาที่ไม่ค่อยมีราคากลาง เพราะความถูก-แพงจะขึ้นอยู่กับฝีมือ ความยากง่ายของลาย ระยะเวลาที่ใช้ในการผลิต รวมถึงค่าแรงช่าง ซึ่งแต่ละที่อาจมีราคาที่ต่างกันออกไป แต่ยังมีการแบ่งราคาค่ากำเหน็จ 4 ระดับ ที่สัมพันธ์กับทองคำและการขึ้นลาย ดังนี้
งานสกุลช่างที่ทำมือทีละชิ้นจะมีราคาค่ากำเหน็จแพงที่สุด ซึ่งแต่ละสกุลช่างจะมีเอกลักษณ์แตกต่างกันไป เช่น
ติดกันเป็นรูป เช่น ลูกสน กระดุมบัวสัตตบงกช หรือโคมไฟจีน
ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นงานหัตถศิลป์ชั้นสูงที่ถ่ายทอดกันมาอย่างยาวนาน และเนื่องจากเป็นงานที่ทำมือทีละเส้นทีละชิ้น ทำให้แต่ละชิ้นอาจมีน้ำหนักไม่เท่ากันและไม่ลงตัวต่อบาทอย่างพอดี โดยจะตีน้ำหนักเป็นกรัมและคิดค่ากำเหน็จต่อชิ้น โดยอาจมีราคาชิ้นละหลายพัน
มีราคาค่ากำเหน็จแพงน้อยลงมา ซึ่งเป็นการขายทองรูปพรรณเข้าเซตกัน เช่น สร้อยคอ สร้อยข้อมือ แหวน ต่างหู โดยที่นิยม เช่น ลายดอกไม้ ที่แม้จะเห็นวางขายเป็นสร้อยคอ หรือกำไลแบบเดี่ยวอยู่บ้าง แต่แบบเซตที่รวมเครื่องประดับครบทุกชิ้นในลวดลายเดียวกันมักหาซื้อได้ยากกว่า มีการคิดราคาทองโดยตีน้ำหนักเป็นกรัม และคิดค่ากำเหน็จต่อชิ้น ซึ่งเนื่องจากเป็นสินค้า Collection ที่ขายเป็นเซต ทำให้มีราคาสูงเมื่อรวมค่ากำเหน็จแต่ละชิ้นเข้าด้วยกัน
เป็นทองรูปพรรณที่มีค่ากำเหน็จค่อนข้างถูก-ปานกลาง ซึ่งมีมากกว่า 1 ลวดลายในเส้นเดียวที่เกิดจากการนำมาประกอบมือ และชื่อลายมักจะมีคำว่า คั่น, ระย้า, ข้าง, ปล้อง, ห้อย, ตุ้งติ้ง หรือ เชื่อม โดยจะมีการใช้แรงงานจากฝีมือช่างบ้างแต่ไม่มาก ราคาจึงถูกตีน้ำหนักเป็นบาท หรือเป็นสลึง ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนการเชื่อมต่อชิ้นงาน
หรือที่เรียกว่าเครื่องทอสร้อย มีราคาค่ากำเหน็จถูกที่สุด ซึ่งจะเป็นลายเดียวกันตลอดทั้งเส้น โดยมักเป็นลายเรียบที่ทำง่าย มีลักษณะเป็นห่วงกลม หรือลวดดัดที่คล้องต่อกันไปเรื่อย ๆ เช่น ลายสร้อยเบนซ์ ซีตรอง ทาโร่ ฟิชโช่ โซ่ สี่เสา คชกิต ผ่าหวาย ที่ถือเป็นลายที่มีค่ากำเหน็จถูกที่สุดอยู่ในราคาไม่ถึงหลักพัน
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่นนอกจากการคำนึงว่าจะซื้อสร้อยทองลายไหนดีถึงจะได้ค่ากำเหน็จถูกที่ส่งผลต่อการเลือกซื้ออีก เช่น
น้ำหนักของทองรูปพรรณ จะมีน้ำหนักมาตรฐานตามเกณฑ์ของสมาคมค้าทองคำ ที่ไม่ว่าจะซื้อร้านไหนก็จะต้องใช้เกณฑ์เดียวกัน โดยจะใช้การชั่งน้ำหนักเป็นเครื่องชั่งดิจิทัลที่เห็นทศนิยม 2 ตำแหน่ง เพื่อให้ได้เห็นน้ำหนักที่ชัดเจน ซึ่งน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นจะทำให้ราคาและความแข็งแรงของทองรูปพรรณสูงตามไปด้วย เพราะน้ำหนักทองที่มากจะช่วยลดการโค้งงอและการหักได้
โดยสังเกตได้จากบริเวณจุดเชื่อมต่อ ข้อต่อ และตัวสลัก เพราะเป็นจุดที่แตกหักได้ง่าย จึงควรตรวจสอบความแข็งแรงทนทานและแหล่งที่มาของทองที่นำมาผลิตทองรูปพรรณให้ดี ซึ่งอาจมีการประทับตราบนตัวทองรูปพรรณ เพื่อบ่งบอกแหล่งที่มาซึ่งทำให้ราคาต่างกันออกไป
เลือกซื้อทองแท้ราคาดีได้มาตรฐาน ดีไซน์สวยงาม และคุณภาพดี ได้ที่ร้านทองชั้นนำทั่วไทยที่เป็นพันธมิตรกับแบรนด์ "กานต์" หรือ Gold by Garn ศูนย์กลางที่เชื่อมต่อผู้ที่ต้องการซื้อทองรูปพรรณและผู้ขายที่ผ่านการตรวจสอบมาตรฐาน ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวเลือกสำหรับการซื้อทองแท้ 96.5% ที่มีทองหลากดีไซน์ให้เลือกสรร หรือติดต่อสอบถามได้ที่ Line: @goldbygarn