ด้วยบริษัท กานต์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเว็บไซต์ www.goldbygarn.com (“บริษัท”, “เว็บไซต์”) ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการเว็บไซต์ รวมถึงกลุ่มลูกค้า คู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ และบุคลากรภายในบริษัทเป็นอย่างยิ่ง โดยบริษัทมีการกำหนดนโยบายและแนวทางในการปฏิบัติขึ้น เพื่อสร้างกลไกในด้านการบริหารจัดการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามหลักมาตรฐานสากล และเป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (“กฎหมาย”)
ดังนั้น บริษัทจึงขอประกาศนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้เพื่อแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบถึงวิธีการที่บริษัท เก็บ รวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยมีสาระสำคัญดังต่อไปนี้
1. คำนิยาม
(1)ข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data) หมายถึง ข้อมูลใด ๆ ที่เกี่ยวกับบุคคลธรรมดาที่ทำให้สามารถระบุถึงตัวบุคคลธรรมดานั้นได้ ไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม โดยไม่รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ถึงแก่กรรม เช่น ชื่อ-นามสกุล, เลขประจำตัวประชาชน, เลขหนังสือเดินทาง, ที่อยู่, อีเมล์, หมายเลขโทรศัพท์ เป็นต้น
(2)ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Personal Data) หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับเชื้อชาติ, เผ่าพันธ์, ความคิดเห็นทางการเมือง, ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา, พฤติกรรมทางเพศ, ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ, ข้อมูลสหภาพแรงงาน, ข้อมูลพันธุกรรม, ข้อมูลชีวภาพ ข้อมูลชีวมิติ (Biometric) หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด
(3)เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (Data Subject) หมายถึง บุคคลธรรมดาซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัท เก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย
(4)การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง การดำเนินการใด ๆ กับข้อมูลส่วนบุคคล เช่น เก็บรวบรวม บันทึก สำเนา จัดระเบียบ เก็บรักษา ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง ใช้ กู้คืน เปิดเผย ส่งต่อ เผยแพร่ โอน รวม ลบ ทำลาย เป็นต้น
(5)ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย
บริษัทอาจมีการเก็บ รวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังต่อไปนี้
ประเภทข้อมูลส่วนบุคคล
|
รายละเอียดข้อมูลส่วนบุคคล |
ข้อมูลเฉพาะตัวบุคคล | - ชื่อ, นามสกุล - เพศ - วันเดือนปีเกิด - อายุ - เลขประจำตัวประชาชน หรือใบอนุญาตขับขี่ หรือเอกสารอื่น ๆ ที่ออกให้โดยหน่วยงานของรัฐ |
ข้อมูลยืนยันตัวตน | - สำเนาหรือภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชนหรือเลขที่บัตรประชาชน สำเนาหรือภาพถ่ายทะเบียนบ้าน - สำเนาหรือภาพถ่ายบัตรประจำตัวข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่รัฐลายมือชื่อ - หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี |
ข้อมูลการติดต่อ | - ที่อยู่ตามทะเบียนบ้านหรือที่อยู่ปัจจุบัน - ที่อยู่อิเล็กทรอนิกส์ (Email) - รายละเอียดบัญชี หรือชื่อผู้ใช้งานในสื่อสังคมออนไลน์ (ID Social Media) เช่น ไลน์ (Line), เฟซบุค (Facebook) เป็นต้น - หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่หรือที่สามารถติดต่อสื่อสารท่านได้ - ข้อมูลการบันทึกภาพหรือเสียงเมื่อมีการติดต่อกับบริษัททางออนไลน์ |
ข้อมูลทางการเงิน | - รายละเอียดบัตรเครดิต/เดบิต เช่น ชื่อ, นามสกุลที่ระบุบนบัตร หมายเลขบัตร วันที่บัตรหมดอายุ ชื่อธนาคารผู้ให้บริการบัตร เป็นต้น - บัญชีธนาคาร - การออกใบกำกับภาษี |
ข้อมูลทางเทคนิค | - หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ (IP Address, MAC Address) - บันทึกข้อมูลการเข้าใช้งานหรือการติดตามพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ - บันทึกการโต้ตอบและการสื่อสารระหว่างเจ้าของข้อมูลกับบริษัทไม่ว่าจะในรูปแบบหรือวิธีใด ๆ ก็ตาม เช่น โทรศัพท์อีเมล ข้อความสนทนา และการสื่อสารทางสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) เป็นต้น - ชื่อบัญชีผู้ใช้งานและรหัสผ่านผู้ใช้ (Username – Password) - ชนิดและรุ่นของเว็บบราวเซอร์ |
ข้อมูลด้านความปลอดภัย | - รูปภาพ - การบันทึกภาพหรือวิดีโอของผู้เข้ามาติดต่อภายในพื้นที่ของบริษัทโดยกล้องวงจรปิด (CCTV) ทั้งนี้ บริษัทได้มีคำประกาศความเป็นส่วนตัวในการใช้กล้องวงจรปิด (CCTV Privacy Notice) และติดป้ายแจ้งให้ท่านทราบว่ามีการใช้กล้องวงจรปิดในพื้นที่ดังกล่าว - รายชื่อบุคคลที่ทำการติดต่อสื่อสารกับบริษัท ลักษณะรูปพรรณสัณฐานบุคคล ข้อมูลการตรวจสอบความผิดปกติและพฤติการณ์ที่น่าสงสัย |
ข้อมูลอื่น ๆ |
ข้อมูลใด ๆ ที่ได้จากการเข้าร่วมกิจกรรมของบริษัท และเป็นข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้กฎหมาย |
3. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทมีวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังต่อไปนี้
(1)เพื่อการให้บริการในทุก ๆ ด้านที่เกี่ยวข้องกับการติดต่อนำเสนอสินค้า/บริการ การแจ้งถึงสิทธิประโยชน์ที่เหมาะสมแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยเฉพาะและการบริหารความสัมพันธ์กับเจ้าของข้อมูล
(2)การสำรวจวิจัยและวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อนำมาพัฒนาสินค้า/บริการ การขยายธุรกิจ การจัดกิจกรรมทางการตลาด ทั้งที่มีอยู่ในปัจจุบันและที่จะมีขึ้นในอนาคตของบริษัทให้ตอบสนองต่อความต้องการของเจ้าของข้อมูลอย่างสูงสุดและถูกต้องครบถ้วน
(3)การพิสูจน์ยืนยัน และ/หรือการระบุตัวตนของเจ้าของข้อมูลในการเข้าใช้บริการผ่านช่องทางต่าง ๆ ที่มีอยู่ของบริษัทโดยไม่เกี่ยวข้องกับการตกลงตามสัญญา เช่น การใช้บริการเว็บไซต์ และ/หรือแอปพลิเคชั่นของบริษัท เป็นต้น โดยทั้งนี้ การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอาจมีบางส่วนที่เป็นข้อมูลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Personal Data) เช่น ข้อมูลชีวมิติ (Biometric) โดยบริษัทยืนยันว่าจะปฏิบัติต่อข้อมูลในส่วนที่มีความอ่อนไหวด้วยความระมัดระวังและเป็นไปตามาตรฐานที่กฎหมายกำหนด
(4)การปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจ เช่น พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและที่ได้แก้ไขเพิ่มเติม รวมถึงกฎหมายอื่นที่บริษัทต้องปฏิบัติตามทั้งกฎหมายภายในประเทศและกฎหมายสากล
(5)การปฏิบัติตามกฎระเบียบ และ/หรือคำสั่งของผู้มีอำนาจ เช่น คำสั่งศาล คำสั่งของหน่วยงานรัฐ หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลบริษัท หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้กำกับดูแล
(6)การบริหารจัดการด้านความปลอดภัย เพื่อปกป้องสิทธิความเป็นส่วนตัว ความปลอดภัยในทรัพย์สินของบริษัท บุคลากร และเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือสาธารณชนอื่นทั่วไป รวมถึงการตรวจสอบและการดำเนินการใด ๆ เพื่อป้องกันการกระทำความผิดตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการละเมิดความปลอดภัยที่ส่งผลกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
(7)การบริหารจัดการภายในบริษัท การตรวจสอบภายใน การควบคุมภายใน การดำเนินธุรกิจ และการปฏิบัติตามนโยบายและกระบวนการของบริษัท ซึ่งรวมถึงการดำเนินการเกี่ยวกับการควบคุมความเสี่ยง ความปลอดภัย การตรวจสอบบัญชี การดำเนินการเพื่อความต่อเนื่องทางธุรกิจ (business continuity)
(8)เพื่อการบริหารจัดการเรื่องร้องเรียน ข้อพิพาท และคดีความ และการบริหารความเสี่ยงในการตรวจสอบ รวมถึงการดำเนินการใด ๆ เพื่อตรวจสอบสืบสวน สอบสวนดำเนินคดีหรือดำเนินมาตรการใด ๆ เพื่อใช้สิทธิตามกฎหมาย การระงับข้อพิพาทหรือข้อขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นระหว่างบริษัทกับเจ้าของข้อมูลอันเกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจ และ/หรือนิติสัมพันธ์กับบริษัท
4. ฐานกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
(1)ฐานปฏิบัติตามสัญญา เพื่อการปฏิบัติตามสัญญาที่ท่านเป็นคู่สัญญา เช่น สัญญาซื้อขาย หรือสัญญาอื่นใด หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญา ตามแก่กรณี
(2)ฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด โดยอาศัยอำนาจที่ได้รับมอบหมายจากรัฐ เช่น กฎหมายภาษี กฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กฎหมายคอมพิวเตอร์ กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้น
(3)ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย เพื่อประโยชน์อันชอบธรรมของผู้ควบคุมข้อมูลและบุคคลอื่น โดยไม่เกินขอบเขตที่ท่านสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผล ซึ่งจะไม่ละเมิดสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของท่าน
(4)ฐานป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของเจ้าของข้อมูล
(5)ฐานความยินยอม บริษัทจะขอความยินยอมจากท่าน กรณีที่กฎหมายกำหนดให้ขอความยินยอม หรือบริษัทไม่มีเหตุให้ใช้ฐานการประมวลข้างต้นเพื่อประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมมาจากท่านได้
5. การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะเก็บรวบรวมหรือได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลประเภทต่าง ๆ จากการที่ท่านเป็นผู้ให้ข้อมูลนั้นกับเว็บไซต์โดยตรง ผ่านแบบฟอร์มอิเล็กทรอนิกส์ หรือผ่านช่องทางติดต่ออื่นที่ควบคุมดูแลโดยบริษัทจัดให้มีขึ้น เว้นแต่บางกรณีบริษัทอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากบุคคลที่สาม โดยบริษัทเชื่อโดยสุจริตว่าบุคคลที่สามดังกล่าวมีสิทธิเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและเปิดเผยกับบริษัท
บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็น และใช้ข้อมูลดังกล่าวตามวัตถุประสงค์ที่กำหนด ซึ่งเป็นวัตถุประสงค์ที่ชอบด้วยกฎหมาย หรือเป็นการดำเนินการตามข้อกำหนดของกฎหมายที่ให้บริษัทต้องจัดเก็บข้อมูลดังกล่าว
ทั้งนี้ ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลที่มีความจำเป็นในการให้บริการของบริษัท อาจเป็นผลให้บริษัทไม่สามารถให้บริการนั้นแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวได้ทั้งหมดหรือบางส่วน
6. ระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลเป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อวัตถุประสงค์ในการเก็บ รวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งได้ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้ และอาจเก็บต่อไปตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
7. มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทมีมาตรการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล โดยการจำกัดสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลให้สามารถเข้าถึงได้โดยเจ้าหน้าที่เฉพาะรายหรือบุคคลที่มีอำนาจหน้าที่หรือได้รับมอบหมายที่มีความจำเป็นต้องใช้ข้อมูลดังกล่าวตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไว้แล้วเท่านั้น ซึ่งบุคคลดังกล่าวจะต้องยึดมั่นและปฏิบัติตามมาตรการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทอย่างเคร่งครัด ตลอดจนมีหน้าที่รักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลที่ตนเองรับรู้จากการปฏิบัติการตามอำนาจหน้าที่ รวมทั้ง บริษัทมีมาตรการป้องกันการเข้าถึงระบบและข้อมูลที่รับรองความปลอดภัยทางอิเล็กทรอนิกส์บนมาตรฐาน SSL (Security Socket Layer) ที่อนุมัติให้แก่เว็บไซต์โดย CA (Certificate Authority) ถูกเข้ารหัสเพื่อปกป้องข้อมูล
นอกจากนี้ เมื่อบริษัทมีการส่ง โอนหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่บุคคลที่สาม ไม่ว่าเพื่อการให้บริการตามพันธกิจ ตามสัญญา หรือข้อตกลงในรูปแบบอื่น บริษัทจะกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลและการรักษาความลับที่เหมาะสมและเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อยืนยันว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมจะมีความมั่นคงปลอดภัยอยู่เสมอ
8. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อบุคคลที่สาม
บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลต่อบุคคลที่สามหรือองค์กรดังต่อไปนี้ ภายใต้หลักเกณฑ์ตามที่กฎหมายกำหนด
(1)บริษัทและกลุ่มบริษัทในเครือ หรือพันธมิตรทางธุรกิจของลริษัท บริษัทประกันภัยที่ได้เข้าทำสัญญา และ/หรือบุคคลอื่นใดที่บริษัทมีนิติสัมพันธ์ด้วย รวมถึงกรรมการ ผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง ผู้รับจ้าง ตัวแทน ที่ปรึกษาของบริษัท และ/หรือของบุคคลดังกล่าวที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล
(2)หน่วยงานของรัฐ และ/หรือหน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลบริษัท เช่น ศาล สำนักงานประกันสังคม กรมสรรพากร เป็นต้น
(3)คู่ค้าหรือองค์กรอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับนิติสัมพันธ์ระหว่างเจ้าของข้อมูลและบริษัท เช่น ผู้แนะนำ ผู้ตรวจสอบบัญชีอิสระ ทนายความ ซึ่งการเปิดเผยข้อมูลบุคคลส่วนบุคคลจะอยู่ภายใต้วัตถุประสงค์ตามข้อกำหนดสัญญา กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และมาตรการด้านความปลอดภัย
(4)บุคคลภายนอกที่เป็นผู้ให้บริการต่าง ๆ ทั่วไปแก่บริษัท เช่น ผู้ให้บริการด้าน IT Service ผู้ให้บริการวิเคราะห์และเปรียบเทียบทางการตลาด บริษัทสื่อโฆษณา ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงตัวแทน หรือผู้รับเหมาช่วงที่กระทำการแทนบริษัท
(5)นายจ้าง ผู้รับมอบอำนาจ ผู้รับมอบอำนาจช่วง ตัวแทน หรือผู้แทนโดยชอบธรรมที่มีอำนาจโดยชอบตามกฎหมาย
9. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 ได้กำหนดสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไว้หลายประการ โดยมีรายละเอียดของสิทธิต่าง ๆ ประกอบด้วย
(1)สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม ในกรณีที่บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยใช้ฐานความยินยอม ท่านสามารถเพิกถอนความยินยอมการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อใดก็ได้ เว้นแต่กฎหมายจะกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น
(2)สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลหรือขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความครอบครองของบริษัท รวมถึงขอให้เปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่ท่านมิได้ให้ความยินยอม
(3)สิทธิในการให้ส่งหรือโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่ระบบข้อมูลของบริษัทรองรับการอ่านหรือใช้งานโดยที่ทั่วไปด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานอัตโนมัติ ท่านสามารถขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลหรือขอให้บริษัทดำเนินการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่นได้ ทั้งนี้ เฉพาะแต่ข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกเก็บรวบรวมโดยใช้ฐานความยินยอม
(4)สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ท่านสามารถขอคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของตนเมื่อใดก็ได้ในกรณีตามที่กฎหมายได้กำหนดไว้
(5)สิทธิในการขอลบข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหมดความจำเป็นต่อวัตถุประสงค์ของการประมวลหรือท่านได้เพิกถอนความยินยอมหรือคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลหรือการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นไปโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ท่านสามารถขอให้บริษัทลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลหรือทำให้ข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้
(6)สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ท่านสามารถขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลของท่านในบางกรณี เช่น ระงับการทำลายข้อมูลเมื่อครบกำหนดที่ต้องทำลาย เพราะเหตุมีความจำเป็นต้องนำข้อมูลไปใช้ในทางกฎหมาย หรือการใช้สิทธิเรียกร้อง หรือขอให้บริษัทระงับการจัดส่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับบุคคลที่สาม เป็นต้น
(7)สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง ท่านสามารถขอให้บริษัทดำเนินการปรับปรุงแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่ถูกต้องเพื่อให้ข้อมูลที่บริษัทมีอยู่นั้นมีความถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
(8)สิทธิในการได้รับการแจ้งให้ทราบ บริษัทจะมีการแจ้ง “นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy)” ที่มีรายละเอียดวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลรวมถึงการแก้ไขเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนให้เจ้าของข้อมูลทราบ
(9)สิทธิในการร้องเรียน โดยร้องเรียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 หากบริษัทฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติดังกล่าวได้
10.การเชื่อมโยงกับเว็บไซต์หรือการให้บริการอื่น ๆ
เว็บไซต์อาจมีการเชื่อมโยงกับเว็บไซต์หรือการให้บริการอื่น ๆ ที่ดำเนินการโดยบริษัท เพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลและเพื่อความสะดวกของท่าน ซึ่งบริษัทให้การรับรองหรือยืนยันความถูกต้องในเนื้อหาของเว็บไซต์หรือการให้บริการที่ดำเนินการโดยบริษัทเท่านั้น
หากเป็นการเชื่อมโยงกับเว็บไซต์หรือบริการอื่น ๆ ของบุคคลภายนอก เว็บไซต์มิได้ให้การรับรองหรือยืนยันความถูกต้องในเนื้อหาของเว็บไซต์หรือบริการเหล่านั้นและมิได้สื่อโดยนัยว่าเว็บไซต์ให้การรับรองหรือแนะนำข้อมูลในเว็บไซต์หรือบริการเหล่านั้น การเข้าเยี่ยมชมหรือใช้ข้อมูลจากเว็บไซต์หรือบริการอื่น ๆ นั้น ถือเป็นหน้าที่ของท่านในการพิจารณาวิเคราะห์ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ข้อมูลในเว็บไซต์หรือบริการเหล่านั้นด้วยตนเอง
บริษัทขอแนะนำให้ท่านอ่านรายละเอียดข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้บริการตลอดจนนโยบายการรักษาความปลอดภัยของเว็บไซต์หรือบริการอื่น ๆ ที่เชื่อมโยงนั้นก่อนเข้าใช้งานดังกล่าว และบริษัทไม่อนุญาตให้ท่านนำลิงก์จากเว็บไซต์ของท่านเพื่อเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์หรือบริการเหล่านั้นโดยมิได้รับอนุญาตจากบริษัทเป็นลายลักษณ์อักษรก่อน กรุณาติดต่อบริษัทหากท่านต้องการทำลิงก์เชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ของท่าน
11. ทรัพย์สินทางปัญญา
สิ่งต่าง ๆ ที่ปรากฎภายในเว็บไซต์หรือบริการใด ๆ ของบริษัท ถือเป็นทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัท กานต์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (ยกเว้นแต่จะระบุไว้เป็นอย่างอื่น) บริษัทไม่อนุญาตให้มีการคัดลอก ทำซ้ำ ดัดแปลง เผยแพร่เนื้อหาสาระในทรัพย์สินทางปัญญา หรือสิ่งต่าง ๆ ที่ถูกพัฒนาโดยบริษัท หรือนำไปใช้เพื่อแสวงหาประโยชน์ทางการค้าโดยมิได้รับอนุญาต บริษัทขอสงวนสิทธิในการดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาโดยทันที
12. ช่องทางการติดต่อบริษัท
ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือมีความประสงค์ยื่นคำร้องขอใช้สิทธิตามพระราชบัญญติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 สามารถติดต่อบริษัทได้ตามช่องทางดังต่อไปนี้
บริษัท กานต์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด
สถานที่ติดต่อ : เลขที่ 999/9 อาคารดิ ออฟฟิศเศส แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้นที่ 29 ห้องเลขที่ 2900 ถนนพระราม 1 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
เบอร์โทรศัพท์ : 02-2072483
Email : info@goldbygarn.com
ดาวน์โหลดแบบคำร้องขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ปรับปรุงล่าสุดเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ.2566